ตัวอย่างพืชในป่าชายเลน
โกงกางใบใหญ่ (Rhizophora mucronata) เป็นพืชที่มีลำต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มบริเวณเรือนยอด ช่อดอกขนาดใหญ่ มี 3-5 ดอก และกลีบดอกมีขนปกคลุม ใบมีขนาดใหญ่ สีของหลังใบจะมีสีอ่อน ท้องใบเป็นสีเหลือง ผิวเปลือกหยาบ รากโค้งจรดดิน ไม่หักเป็นมุมฉาก ซึ่งเป็นลักษณะที่ต่างจากไม้โกงกางใบเล็ก |
โกงกางใบเล็ก (Rhizophora apiculata) ลักษณะคล้ายคลึงกับโกงกางใบใหญ่มาก แต่แตกต่างกันที่ ชนิดนี้มีใบขนาดเล็กกว่า ท้องใบเป็นสีเขียวอมดำ ปลายใบเป็นติ่ง ช่อดอกเล็กกว่า เพราะมีเพียง 2 ดอก และที่สำคัญกลีบดอกไม่มีขน รากหนึ่งหรือสองรากที่ทำมุมตั้งฉากกับลำต้น และหักเป็นมุมฉากลงดิน |
แสมทะเล (Avicennia marina) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ที่พบมากในพื้นดินงอกใหม่และที่ดินเลนปนทราย แผ่นใบรูปรีหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ขอบใบม้วนเข้าหากัน ท้องใบสีขาวนวล ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลรูปไข่กว้าง เบี้ยว เกือบกลม แบนด้านข้าง |
แสมขาว (Avicennia alba) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่มักขึ้นปะปนกับแสมทะเล ลักษณะเด่นที่ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอกแกมรี ปลายใบแหลม ด้านท้องใบมีขนยาวนุ่ม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ขนาดเล็ก ผลรูปคล้ายพริกชี้ฟ้า หรือรูปไข่ เบี้ยว แบน มีรากหายใจคล้ายดินสอ |
แสมดำ (Avicennia officinalis) ใบเป็นใบเดี่ยวรูปรี หรือไข่กลับ ผิวด้านบนสีเขียวเป็นมัน ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีเหลืองหรือส้ม ผลรูปหัวใจเบี้ยวแบน เปลือกอ่อนนุ่ม สีเหลืองปนเขียว ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้ม มีรากคล้ายรากดินสอ |
โปรงแดง (Ceriops tagal) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงปานกลาง ชอบดินที่มีสภาพเป็นกรดและค่อนข้างเป็นที่ดอน มีลำต้นสีเหลืองถึงสีปูนแห้ง ใบรูปไข่กลับ ปลายใบมน ดอกออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ แต่ละช่อมี 4-8 ดอก ผลเป็นรูปแพร์กลับ สีเขียวถึงน้ำตาลอมเขียว |
พังกาหัวสุมดอกแดง (Bruguiera gymnorrhiza) เป็นพืชที่ชอบขึ้นใน ดินเลนแข็งและน้ำท่วมถึง ลำต้นมีสีดำ เปลือกเป็นเกล็ดหนา ลำต้นกลมมักจะพบลักษณะเป็นพูพอน ใบคล้ายใบโกงกางใบเล็ก แต่ต่างกันที่ไม่มีจุดสีดำที่ท้องใบ ดอกมีสีแดงสด ออกดอกตลอดปี |
พังกาหัวสุมดอกขาว (Bruguiera sexangula) ลักษณะคล้ายพังกาหัวสุมดอกแดง แต่ดอกมีสีขาว มีโคนต้นและลำต้นที่กลม ส่วนเปลือกเรียบกว่า พบมากบริเวณที่ความเค็มต่ำ |
ลำพูทะเล (Sonneratia alba) เป็นไม้เบิกนำของป่าชายเลนเช่นเดียวกับแสม ใบเป็นสีเขียวอ่อน ปลายมนคล้ายรูปหัวใจกลับด้าน ก้านใบด้านหลังและสีด้านในกลีบเลี้ยงเป็นสีชมพูสวยงามมาก มักพบขึ้นปะปนกับแสม มีรากอากาศขนาดใหญ่ที่แทงขึ้นมาจากพื้นดินเห็นได้ชัดเจน บนต้นลำพูนี่เองที่หิ่งห้อยชอบอาศัยอยู่และส่งแสงกระพริบในเวลากลางคืน |
ตะบูนดำ (Xylocarpus granatum) เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง โคนต้นมีพูพอนเล็กน้อย มีรากหายใจคล้ายรูปกรวยคว่ำ ผลค่อนข้างกลม มีร่องเล็กน้อยสีเขียว พบในบริเวณที่เป็นดินค่อนข้างแข็ง |
ฝาดดอกแดง (Lumnitzera littorea) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่ เปลือกสีน้ำตาลีรอยแตกเป็นร่องลึก ใบเป็นแผ่นหนา รูปรีแกมไข่กลับ สีเขียวเข้ม ออกดอกที่ปลายกิ่ง สีแดงสด กลีบดอก 5 กลีบ และมีผลรูปกระสวย พบบริเวณที่เป็นดินเลนแข็ง หรือดิน |
ฝาดดอกขาว (Lumnitzera racemora) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เปลือกขรุขระ สีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบเดี่ยว กระจายตลอดกิ่ง แผ่นใบแคบ รูปไข่กลับ ดอกออกที่ปลายกิ่งและง่ามใบ ดอกมีสีขาว 5 กลีบ |
เหงือกปลาหมอดอกม่วง (Acanthus ilicifolius) มักขึ้นในพื้นป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมแล้วและมีน้ำท่วมถึง ส่วนของขอบใบหยักและมีหนามแหลมคม ออกดอกสีฟ้าอมม่วงมีแถบสีเหลืองตรงกลางกลีบดอก |
ตาตุ่มทะเล (Exocoecaria agallocha) ลำต้นมีลักษณะพิเศษ คือ เป็นตุ่มเป็นตา ใบปกติมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จัดจะเป็นสีเหลืองทั้งต้น แต่บางครั้งอาจพบใบหลายสีบนต้นเดียวกัน ยางมีพิษหากเข้าตาจะทำให้ตาบอดได้ แต่หากกินเข้าไปจะทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรง พบมากโดยทั่วไปในที่ดินเลนค่อนข้างแข็งหรือที่ดินเลนปนทรายและปนหิน |
จาก (Nypa frutican) เป็นพืชกลุ่มเดียวกับปาล์ม ชอบขึ้นริมฝั่งคลองตามแนวป่าชายเลนหรือบริเวณน้ำกร่อย ชาวประมงนิยมมาทำเป็นหลังคาบ้าน ผลมีลักษณะแทงขึ้นมาเป็นทะลาย นำมาทำเป็นลูกชิดรับประทานได้ ส่วนของน้ำตาลนำมาทำยาแก้ริดสีดวงทวารได้ผลชะงัดนัก |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น